หลายคนคงเคยมองว่า “เครื่องฟอกอากาศ” เป็นสินค้าฟุ่มเฟือย ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ฝุ่นตัวร้ายที่ชื่อ PM 2.5 ได้คร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 8.1 ล้านคนทั่วโลก ทำให้เรากลับมาตระหนักว่า เครื่องฟอกอากาศ คือ ตัวช่วยที่ทำให้เรามีอากาศบริสุทธิ์หายใจในขณะที่ทั้งเมืองวุ่นวายไปด้วยมลพิษ ในปัจจุบันมีเครื่องฟอกอากาศหลายยี่ห้อให้เลือกซื้อ แต่คำถามคือต้องเลือก เครื่องฟอกอากาศยี่ห้อไหนดี และเลือกซื้อยังไงให้คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป ดังนั้นเราเลยจะมาบอกสิ่งที่ต้องรู้ก่อนซื้อเครื่องฟอกอากาศ รวมถึงจะมาแนะนำเครื่องฟอกอากาศ Blueair ที่น่าสนใจให้ได้รู้จักกันด้วย
ก่อนเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ ต้องรู้อะไรบ้าง?
1.ขนาดห้องต้องเหมาะสมกับเครื่อง
เพราะเครื่องฟอกอากาศ (Air Purifier) คือ เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ช่วยปรับปรุงคุณภาพอากาศ ได้ทั้งภายในบ้าน และสำนักงาน แต่การจะเลือกให้ตอบโจทย์และคุ้มค่า อย่างแรกเลยต้องรู้ว่าจะนำเครื่องฟอกอากาศไปใช้ในห้องขนาดเท่าไหร่ โดยมีวิธีคํานวณแบบง่าย ๆ คือ วัดเป็น กว้าง (เมตร) x ยาว (เมตร) จากนั้นเลือกดูขนาดพื้นที่รองรับของเครื่องฟอกอากาศ เท่านี้ก็ช่วยให้การทำงานของเครื่องฟอกอากาศ สามารถทำได้อย่างเต็มประสิทธิภาพแล้ว
2.เช็คค่าอากาศและความเร็วลม
ดูค่า CADR (Clean Air Delivery Rate) หรือค่าอากาศที่เครื่องสามารถฟอกได้ใน 1 ชั่วโมง โดยส่วนมากจะมีหน่วยเป็น ลูกบาศก์เมตร (m³) ต่อชั่วโมง เช่น 200m³/h หรือ 500m³/h ซึ่งค่าตรงนี้ยิ่งตัวเลขสูงยิ่งดี รวมไปถึงค่า Air Flow หรือค่าความเร็วลม ยิ่งค่าสูงยิ่งกรองอากาศได้สะอาดเร็วขึ้น
3.คุณสมบัติของแผ่นกรองอากาศ
เลือกที่เป็นเกรด HEPA filter (แผ่นกรองอากาศคุณภาพสูง) โดยในท้องตลาดมีเกรดให้เลือกตั้งแต่ H10 – H14 จำไว้ว่ายิ่งเลขเยอะ ยิ่งลดโอกาสที่อนุภาคจะทะลุผ่านได้มากเท่านั้น ควรเลือกตั้งแต่เกรด H12 ขึ้นไป และต้องดูว่าเครื่องมีแผ่นกรองพิเศษอย่างอื่นด้วยไหม เช่น แผ่นคาร์บอนดูดกลิ่น ควัน หรือสารเคมี เป็นต้น
4.ฟังก์ชั่นการใช้งานที่น่าสนใจ
ต้องดูว่าเครื่องฟอกอากาศมีฟังก์ชั่นอะไรที่ใส่เข้ามาบ้าง เช่น ระบบเตือนไส้กรองคงเหลือ การสั่งงานผ่านสมาร์ทโฟน การเพิ่มความชื้นในอากาศ เป็นต้น ทั้งนี้ควรเลือกเฉพาะฟังก์ชั่นที่จำเป็นจริง ๆ ก็พอ เพราะถ้าเป็นเครื่องฟอกอากาศรุ่นที่ทำได้หลายอย่างก็ย่อมทำให้มีราคาแพงขึ้นเช่นกัน
5.ราคาไส้กรอง และความสะดวกในการซื้อ
เครื่องฟอกอากาศไม่ใช่เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่จ่ายครั้งเดียวแล้วจบ เพราะโดยทั่วไปไส้กรองอากาศมีอายุการใช้งานตั้งแต่ 6-12 เดือน ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ เราจึงต้องดูราคาและความสะดวกต่อการซื้อไส้กรองอากาศมาเปลี่ยนในครั้งต่อ ๆ ไปด้วยนั่นเอง
6.บริการหลังการขายคือหัวใจสำคัญ
เครื่องฟอกอากาศเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านที่มีการใช้งานค่อนข้างซับซ้อน หากเกิดข้อสงสัยในการใช้งาน เราต้องมั่นใจว่าจะสามารถติดต่อขอคำแนะนำจากผู้ขายได้อย่างรวดเร็ว หรือเกิดเครื่องเกิดมีปัญหา มีการรับประกันมอเตอร์กี่ปี รวมถึงมีบริการทำความสะอาดฟรีถึงที่บ้านกี่ครั้ง
เลือกเครื่องฟอกอากาศ ช่วยกรองฝุ่น PM2.5 ยี่ห้อไหนดี
นอกเหนือจากข้อแนะนำในเการเลือกครื่องฟอกอากาศในข้างต้นแล้ว หากเป็นไปได้ควรเลือกเครื่องฟอกอากาศที่ประหยัดไฟ และเสียงเงียบไม่รบกวนการนอน เพื่อไม่ให้รบกวนการพักผ่อน ดังนั้นเราจึงอยากแนะนำเครื่องฟอกอากาศสัญชาติสวีเดนยี่ห้อ Blueair ซึ่งเป็นเครื่องฟอกอากาศ ที่ได้การยอมรับจากโรงพยาบาลชั้นนำ ด้วยเทคโนโลยี HEPASilent™ ดักจับฝุ่นละอองขนาดเล็กได้ถึง 0.1 ไมครอน และกำจัดไวรัสโควิดในอากาศได้ถึง 99.99% ได้รับมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก) ว่าแต่จะมีรุ่นไหนบ้างไปดูกันเลย
1. เครื่องฟอกอากาศ Blueair รุ่น HealthProtect 7770i (พื้นที่ : 62-149 ตร.ม.)
ฟอกเร็วสูงสุด: 12.5-30 นาที
เสียง : 55 dB
รับประกัน : รับประกันมอเตอร์ 5 ปี
ไส้กรอง: มาตรฐาน HEPASilent™ เทียบเท่า H13 กรองอนุภาคเล็ก 0.1 ไมครอน, กำจัดฝุ่น PM 2.5, ขนสัตว์หรือสะเก็ดผิวหนังสัตว์, เกสรดอกไม้, เชื้อไวรัสโควิด, แบคทีเรีย, กลิ่น, ควัน และสารเคมี
รายละเอียด : เครื่องทำจากเหล็กเคลือบพิเศษ, หน้าจอสัมผัสบนเครื่อง แสดงแถบสีบอกระดับค่าฝุ่น, VOC, ความชื้น และอุณหภูมิห้อง, ชิปติดตามไส้กรองคงเหลือเรียลไทม์, ปล่อยแรงลม Spiral Air 360 องศา , เทคโนโลยี Germshield ป้องกันไว้รัสและแบคทีเรียแม้ปิดเครื่อง, สั่งงานผ่านแอพบนมือถือ และ Auto Fan Speed ปรับแรงลมได้ 3 ระดับ หรือปรับอัตโนมัติตามสภาพอากาศห้อง
2. เครื่องฟอกอากาศ Blueair รุ่น DustMagnet 5440i (พื้นที่ : 33-79 ตร.ม.)
ฟอกเร็วสูงสุด: 12.5-30 นาที
เสียง : 30 dB
รับประกัน : รับประกันมอเตอร์ 5 ปี
ไส้กรอง: มาตรฐาน HEPASilent™ เทียบเท่า H13 กรองอนุภาคเล็ก 0.1 ไมครอน, กำจัดฝุ่น PM 2.5 ขนหรือสะเก็ดผิวหนังสัตว์, เกสรดอกไม้, เชื้อไวรัสโควิด, แบคทีเรีย, กลิ่น, ควัน และสารเคมี
รายละเอียด : ที่วางของบนตัวเครื่อง, Pre-filter กำจัดขนสัตว์หรือฝุ่นขนาดใหญ่, เซ็นเซอร์วัดค่าอากาศ, ระบบเตือนอายุไส้กรองคงเหลือ, สั่งงานผ่านแอพบนมือถือ และ Auto Fan speed ปรับแรงลมได้ 3 ระดับ หรือปรับอัตโนมัติตามสภาพอากาศห้อง
3. Blueair เครื่องฟอกอากาศ รุ่น Blue Max 3650i (พื้นที่ : 59-141 ตร.ม.)
ฟอกเร็วสูงสุด: 12.5-30 นาที
เสียง : 23-53 dB
รับประกัน : รับประกันมอเตอร์ 3 ปี
ไส้กรอง: มาตรฐาน HEPASilent™ เทียบเท่า H13 กรองอนุภาคเล็ก 0.1 ไมครอน, กำจัดฝุ่น PM 2.5 ขนหรือสะเก็ดผิวหนังสัตว์, เกสรดอกไม้, เชื้อไวรัส, แบคทีเรีย, กลิ่น, ควัน และสารเคมี
รายละเอียด :หน้าจอสัมผัส แสดงระดับค่าฝุ่น PM ,เซ็นเซอร์วัดค่าอากาศ, RealTreack คำนวณอายุไส้กรองคงเหลือ , สั่งงานผ่านแอพบนมือถือ และ Auto Fan speed ปรับแรงลมได้ 5 ระดับ หรือปรับอัตโนมัติตามสภาพอากาศห้อง
สนใจสั่งซื้อสินค้า Blueair
Shopee: Blueair official store
Lazada: Blueair
NocNoc: Sangchai Shop
สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Line Official: @blueair
Tel. 02-446-5666 ต่อ 2200, 2207
ข้อมูลจาก : https://thestandard.co/air-pollution-kills-8m-people/
